บาร์โค้ด
หรือ รหัสแท่ง
(อังกฤษ: barcode)
เป็นเครื่องหมายแทนข้อมูลชนิดหนึ่งที่เครื่องจักรสามารถอ่านได้ด้วยแสง
(optical
machine-readable) ซึ่งข้อมูลนั้นมักเกี่ยวข้องกับวัตถุที่มันติดอยู่
บาร์โค้ดโดยแรกเริ่มใช้รูปแบบ
"บาร์"
หรือ
"แท่ง"
คือเส้นขนานหลาย
ๆ เส้นที่มีความหนาและช่องไฟต่าง
ๆ วางเรียงกันอยู่อย่างมีกฎเกณฑ์
ซึ่งรูปแบบนี้อาจเรียกว่า
เชิงเส้น หรือ
หนึ่งมิติ (1D) ก็ได้
เวลาต่อมามีการพัฒนารูปแบบเป็นจุด
สี่เหลี่ยม หกเหลี่ยม
และรูปแบบทางเรขาคณิตอื่น
ๆ ใน
สองมิติ (2D) ถึงแม้ระบบสองมิตินี้ใช้สัญลักษณ์ที่หลากหลาย
โดยรวมก็ยังคงเรียกว่าบาร์โค้ดอยู่เช่นเดิม
บาร์โค้ดดั้งเดิมอ่านด้วยเครื่องกราดภาพด้วยแสงชนิดพิเศษที่เรียกว่าเครื่องอ่านบาร์โค้ด
แต่ต่อมาเครื่องกราดภาพชนิดอื่นและซอฟต์แวร์แปลความหมายก็มีให้ใช้ในอุปกรณ์ต่าง
ๆ รวมไปถึงเครื่องพิมพ์ตั้งโต๊ะชนิดที่กราดภาพได้
และสมาร์ตโฟน
บาร์โค้ดถูกใช้เป็นครั้งแรกเพื่อติดป้ายกำกับรถรางแต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จในเชิงพาณิชย์
จนกระทั่งระบบ
ณ จุดขายอัตโนมัติในซูเปอร์มาร์เก็ตได้นำบาร์โค้ดไปใช้
ซึ่งเป็นงานหนึ่งที่ทำให้บาร์โค้ดแพร่หลายไปเกือบทั่วโลก
การใช้งานบาร์โค้ดก็แพร่กระจายไปยังงานอื่น
ๆ ที่มักเกี่ยวข้องกับการระบุและการจับข้อมูลอัตโนมัติ
(automatic
identification and data capture: AIDC) บาร์โค้ดสมัยใหม่ในรูปแบบรหัสผลิตภัณฑ์สากล
(Universal
Product Code: UPC) อันแรกสุดที่ถูกอ่าน
คือบาร์โค้ดที่ติดอยู่บนห่อหมากฝรั่งริกลีย์เมื่อเดือนมิถุนายน
ค.ศ.
1974
บาร์โค้ดสองมิติ
ปัจจุบันได้มีการนำบาร์โค้ดสองมิติมาใช้งาน
สำหรับข้อมูลที่มีจำนวนมาก
รวมถึงการนำเทคโนโลยีRFID
ซึ่งเป็นการตรวจสอบข้อมูลผ่านทางคลื่นวิทยุ
แทนที่เลเซอร์เหมือนบาร์โค้ดในปัจจุบัน
บาร์โค้ดสองมิติที่นิยมใช้ในปัจจุบันมีหลายประเภท
โดยแต่ละประเภทจะมีรูปแบบการจัดวางที่แตกต่างกัน
โดยที่นิยมใช้กันมากได้แก่
รหัสคิวอาร์
(QR
Code)
ดาต้าเมทริกซ์
(Data
matrix)
รหัสแม็กซี
(MaxiCode)
รหัสอีซี
(EZcode)
รหัสแอซเทค
(Aztec
Code)
เอ็มเอสแท็ก
(MS
Tag) บาร์โค้ดสองมิติจากไมโครซอฟท์
บล็อกนี้จัดทำขึ้นเพราะเป็นส่วนหนึ่งในการเรียนการสอนถ้าข้อูลหรืออ้างอิงผิดพลาดประการ์ใดก็ขออภัยไว้ณที่นี้
ตอบลบ